อีกหนึ่งปัญหาของการมิ๊กซ์เสียง ที่เกิดขึ้นบ่อยสำหรับโปรดิวเซอร์มือใหม่ หลายๆคนมิ๊กซ์เพลงแล้วรู้สึกว่า
เอ้... เสียงที่เรามิ๊กซ์ออกมาแล้ว มันแห้งไป หรือมิ๊กออกมาแล้ว เสียงมันดูแน่นและอู้จนเกินไป วันนี้เราจะมาแก้ข้อสงสัยนี้กันครับ
ซึ่งมันนี้เราจะหยิบมาให้ดูกันใน 3 Example นะครับ ได้แก่
1.มิ๊กซ์แบบแห้งๆเลยไม่มีอะไร (Thin)
2.มิ๊กซ์แบบเสียงแน่นเยอะไปในทางอู้ (Muddy)
3.มิ๊กซ์แบบ Balance
หลายๆคนดูแล้วคงเกิดคำถามว่า เพราะอะไรมิ๊กซ์เพลงออกมาแล้ว ดูแห้งไม่มี มิติ ทำไมมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงมันอู้ๆ ดูอุดๆออกมาไม่หมด ซึ่งทั้งสองตัวนี้เกิดจาก การ Balance เสียงที่ไม่ดีหรือ Balance ในย่านความถี่ตํ่าไม่ดีครับ
ให้จำไว้เลยครับ ถ้าเพลงของเราดูแห้งไม่มีอะไร นั้นคือย่านความถี่ Low เราน้อยไป แต่ถ้าเสียงมันอู้ๆ แน่นๆนั้นคือย่านความถี่ High เราน้อยเช่นกันครับ
หรือคิดแบบนี้ครับ ถ้าเพลงของเรามี Energy มากเกินไป เพลงเค้าเราจะรู้สึกอู้ๆแน่นอนครับ แต่ถ้า Energy ของเพลงน้อยเกินไป เสียงก็จะแห้งนั้นเองครับ
ซึ่งระยะความถี่เสียงที่เราจะมาพูดกันนี้ จะอยู่ที่ราวๆ 100Hz ไปจนถึง 300Hz
โดยประมานนี้นะครับ
และจริงๆแล้ว ปัญหาเรานี้ การ Boost หรือ Cut ไม่ได้มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเรานี้นะครับ และไม่ใช่แค่ว่า ย่านนี้มีความดังไปหรือย่านความถี่เสียงนี้เบาไป ปัญหาของมันจริงๆแล้วคือ ย่านความถี่เสียง Low นั้นมี Energy ที่น้อยไปครับ
จริงๆแล้วการแก้ไขปัญหาเรานี้ เราต้องฟังหลังจากมิ๊กซ์เสร็จเลยครับ เช่นมิ๊กซ์ออกมาแล้ว เสียงแห้งไปมากขาด Energy
ต้องบอกก่อนนะครับ Volume Balance ต่อให้ Balance ระดับความดังของเสียง
มันก็เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะสิ่งที่เราพูด ณ ตอนนี้คือเรื่องของ Energy ไม่ใช่แค่เรื่องของ Balance ระดับเสียงอย่างเดียว
(ในกรณี ที่เพิ่งเริ่ม Mix ให้ใช้วิธีนี้ครับ)
ซึ่งถ้าเกิดสิ่งเหล่านี้ปุ๊ป สิ่งที่้เราทำได้อีกอย่าง ก็คือใส่ EQ ลงใน Mix Bus ครับ
เช่นถ้า Energy มันเยอะไป ก็สามารถ Cut ย่าน Low ลงบ้างนิดหน่อยครับ ดูตามความเหมาะสม ซึ่งตรงนี้ต้องอาศัยการฟังมากๆ พยายามสร้าง Balance ของเสียงให้ได้มากที่สุดครับ
แต่ถ้าเกิดปัญหาเหล่านี้มันอยู่ในขั้นตอนที่ เราไปแก้ตั้งแต่แรก แล้วมันทำให้เวลางานช้าขึ้นหรือยุ่งยากขึ้น
เรามีเคล็ดลับมาบอกกันครับ เริ่มกันที่นี้เลยครับ Energy มากเกินไปหรือ (Muddy)
1.หาเสียงเครื่องดนตรี ที่เราคิดว่าเสียงนั้นเคลียร์ดีแล้ว Balance ระดับเสียงทุกอย่างดีแล้ว
ไม่จำเป็นจะต้องปรับอะไรแล้ว หาที่ละเครื่องดนตรีทั้งหมดของเพลงเราเลยครับ โดยการ Mute เสียงฟังดูที่ละเครื่องดนตรี ฟังซํ้าๆ เมื่อเราปิดบางเครื่องดนตรี และรู้สึกว่า เสียงเครื่องดนตรีนี้พอปิดแล้ว เพลงของเราฟังแล้วดีขึ้น นั้นแหละครับ คือตัวปัญหาของเรา
เมื่อเจอปัญหาของเรา ก็สามารถใช้วิธีการใส่ EQ เพื่อไป Cut ย่านความถี่เสียงที่เราต้องการจะเอาออกหรือมันมากไป
หรือจะลดเสียงของเครื่องดนตรีนั้นลงอีกหน่อยก็ได้ครับ
ต่อมาจะเป็นในส่วนของเพลงที่ขาด Energy มากเกินไป หรือเสียงมันฟังออกมาแล้วแห้งนั้นเองครับ
ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหา (Thin)
2.คือฟังเพลงของเราครับ ว่ามันขาดส่วนไหนมากเกินไป ยกตัวอย่าง ขาด Energy ในพาร์ทของกีต้าร์เรา
ตรงนี้การใช้ EQ จะไม่มีผลอะไรแล้วครับ สิ่งเดียวที่เราต้องทำเลยนั้นก็คือ สร้างพาร์ทนั้นขึ้นมาอีกพาร์ท
และทำ Octave ของพาร์ทนั้นให้ตํ่าลง และเพิ่มเสียงขึ้นในมิ๊กซ์ อีกนิดหน่อย
เพราะการทำแบบนี้จะไม่ทำให้เสียงของเรานั้นเปลี่ยนโทนนั้นเองครับ และมิ๊กซ์ของเราจะรู้สึกได้เลยครับว่า
มัน Balance มากขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาข้อนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการอัดเสียงที่เราอัดมาตอนแรกด้วยนะครับ
ถ้าเราอัดเสียงมาแย่ตั้งแต่แรก การแก้ไขปัญหานี้ทำได้ยากแน่นอนครับ
(เหมือนที่เราบอกกันอยู่ประจำเลยครับ ว่าการอัดเสียงนั้นมีผลสำหรับมากต่องานของเรา โดยเฉพาะการมิ๊กซ์นั้นเอง)
ปัญหาเหล่านี้จริงๆแล้ว มันเกิดจากการทำ High Pass Filters ด้วยนะครับ
อย่าใส่ High Pass ลงในทุกๆอย่างนะครับ เพื่อให้ Kick และ Bass นั้นมี Space อยู่บ้างครับ
อย่าขัดย่านความถี่เสียงตํ่าให้แคบเกินไปครับ เพราะถ้ามากไปมันจะทำให้โทนของเรานั้นเปลี่ยนเช่นกัน
การแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ ควรฟังที่ละจุดและทุกชิ้นเครื่องดนตรี ที่อยู่ในเพลงเราครับ และลองดูครับ ว่าเครื่องดนตรีชิ้นไหนของเรา มันขาด Energy หรือ Energy มันเยอะเกินไปจนทำให้เพลงของเรานั้นอู้ ฟังทีละจุดเลยครับ ลองเทียบดูว่าเราต้องการให้ส่วนไหนลด
ส่วนไหนเพิ่ม ถ้าเจอแล้วจะเพิ่มหรือจะลดควรให้มันอยู่ที่ 100Hz-300Hz นั้นเองครับ ทำแค่นี้เราก็จะหาจุดบกพร่องและพัฒนาการมิ๊กซ์ของเรา
ได้แน่นอนครับ
Youtube : Tong Apollo
Instagram : classabytongapollo
Facebook : สอนทำเพลงออนไลน์ Class A by Tong Apollo
TikTok : Class A by Tong Apollo
#สอนทำเพลงออนไลน์ #แต่งเสียงร้อง #classabytongapollo
Comments